วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Happy meal O:)


        สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ สบายดีกันรึเปล่า วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่อง สื่อสิ่งพิมพ์  ค่ะ ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำความหมายของ สื่อสิ่งพิมพ์ ให้ผู้อ่านได้ทราบกันก่อนค่ะ สื่อสิ่งพิมพ์ คือ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภทที่ผ่านกระบวนการพิมพ์ การสร้างภาพพิมพ์ ปรากฏเนื้อหาที่สามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารได้ ไม่ว่าวัสดุที่ใช้พิมพ์จะเป็นอะไรก็ตามค่ะ หรือจะสรุปสั้นๆว่า สื่อที่เป็นสื่อกลาง มีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสาร ใช้การพิมพ์เป็นหลักและมีการทำสำเนาค่ะ

        ผู้อ่านลองสังเกตไปรอบๆตัวเราสิคะ จะพบว่ามี " สื่อสิ่งพิมพ์ " ปรากฏอยู่มากมายและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราทั้งสิ้นค่ะ เช่น ฉลากยา  โบชัวร์ แผ่นพับ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เป็นต้น และยังรวมถึงข้อความที่ตีพิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น บนขวดครีมอาบน้ำ  ขวดแชมพู ครีมนวด กล่องยาสีฟัน ซองผงซักฟอก ถุงพลาสติกของห้างต่างๆ ซองและขวดผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร ซองขนมขบเคี้ยวต่างๆ  เป็นต้นค่ะ 



       


        “ สื่อสิ่งพิมพ์ แต่ละประเภทจะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น ซองขนมขบเคี้ยวต่างๆ จะแสดงถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในซอง เมื่อเราดูแค่ซองเราก็จะเข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในซองนั้นคืออะไร ในเรื่องของ สี แบบตัวอักษร สีของตัวอักษร รูปภาพ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบเลยค่ะ เพราะถ้าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีองค์ประกอบที่ครบถ้วน จะช่วยให้เป็นที่สนใจ ดึงดูดลูกค้า และทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นที่จดจำได้ของผู้ที่พบเห็นค่ะ

        “ สื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผู้เขียนชื่นชอบนะคะ คือ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ ชุด Happy meal ของร้าน McDonald’s ค่ะ ผู้อ่านจำได้เหมือนกันไหมคะว่า ชุด Happy meal แต่ก่อนนั้น ไม่ได้เป็นในลักษณะนี้ แต่ก็เพราะยุคสมัยไงหละคะ ที่เป็นตัวกำหนด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้สิ่งนั้นๆ เกิดความสวยงาม และทันสมัยขึ้นค่ะ 









        เหตุผลที่ผู้เขียนชอบ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ของ ชุด Happy meal เหตุผลส่วนตัวนะคะ เพราะชอบกิน McDonald’s มาตั้งแต่เด็กๆละค่ะ ชอบสะสมของเล่นที่มากับชุด  Happy meal ค่ะ แต่พอโตขึ้น ที่บ้านไม่มีที่เก็บของเล่นเหล่านี้แล้ว แม่จึงนำของเล่นไปบริจาคคนอื่น จำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้เลยค่ะ แต่ก็ได้แอบเลือกเก็บเฉพาะตัวที่ชอบมากๆไว้ได้ค่ะ
         J เหตุผลที่ชอบ คือ 1.ในด้านการออกแบบ มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งทำมาจากกระดาษแข็ง ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้โลกร้อนค่ะ 2.ในเรื่องของสี เลือกใช้สีที่เป็นแม่สี สีแดงเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของร้าน McDonald’s ผู้เขียนได้เคยอ่านเจอนะคะว่า กลุ่มสีโทนร้อน เป็นกลุ่มสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกมีพลัง เร่าร้อน กระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง ในทางจิตวิทยาความแรงของสีโทนร้อน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกหิว และกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ สีเขียวเป็นสีที่อยู่ตรงข้ามกับสีแดง ทำให้เห็นถึงการใช้สีตรงข้าม สีเหลืองถูกออกแบบให้เป็นหูหิ้ว 3.ในเรื่องของตัวอักษร รูปแบบตัวอักษรที่เลือกใช้ใน สื่อสิ่งพิมพ์นี้ มีขนาดที่พอดีกับขนาดของบรรจุภัณฑ์  การออกแบบตัวอักษร อ่านง่ายดี 4.ในเรื่องของสีตัวอักษร เลือกใช้สีได้มีความลงตัวและมีความเหมาะสม ใช้สีเพียงแค่ 3 สี คือ ขาว เหลือง เขียว แต่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กๆได้เป็นอย่างดี เนื้อหาที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ด้านข้างจะเป็นเกม ฝึกทักษะ คือ เกมเขาวงกต อีกด้านจะเป็นเกมหาคำศัพท์ที่เกี่ยวกับ ชุด Happy meal และด้านสุดท้ายจะเป็นการให้ความรู้ว่าในชุด Happy meal อาหารที่รับประทานไปนั้นมีคุณประโยชน์อะไรมั่งค่ะ เมื่อผู้อ่านได้ทราบข้อมูลที่อธิบายไปแล้ว เมื่อซื้อชุด Happy meal มาให้ลูกหลานอย่าลืมที่จะลองอ่านที่บรรจุภัณฑ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะให้กับลูกหลานกันนะคะ 






วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

The son of Poseidon...

        สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ สบายดีกันรึเปล่า วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของหนังสือเล่มโปรดของผู้เขียนกันค่ะ คำว่า " หนังสือ " หลายคนฟังแล้วก็ไม่อยากอ่าน เคยเป็นกันใช่ไหมคะ แต่ " หนังสือ " นั้นมีมากมายหลายประเภทค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะชอบอ่าน " หนังสือ " ประเภทไหน แต่ก็ใช่ว่า " หนังสือ " ประเภทนั้นๆจะเขียนได้ดีทุกเล่มเสมอไปนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ การอ่าน " หนังสือ  " เปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้อ่าน ส่วนตัวของผู้เขียนนั้นก็ไม่ใช่เป็นนักอ่านหรอกค่ะ จะอ่านเฉพาะ " หนังสือ " ที่ได้ลองอ่านแล้วรู้สึกชอบ สนใจ อยากติดตามต่อ นี่แหละค่ะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอ่าน " หนังสือ " เล่มนั้นได้อย่างมีความสุข และ " หนังสือ " เล่มโปรดของผู้เขียนนะคะ เป็น " หนังสือ " ประเภทนวนิยายแฟนตาซีค่ะซึ่ง ประพันธ์โดย ริก ไรออร์ดัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเด็กชายชื่อว่า เพอร์ซีย์ แจ็กสัน หนังสือในชุดเพอร์ซีย์ แจ็กสัน ประกอบไปด้วยหนังสือจำนวน 5 เล่ม คือ  เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับสายฟ้าที่หายไป, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับอาถรรพ์ทะเลปีศาจ,     เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับคำสาปแห่งไททัน, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับปริศนาเขาวงกต, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับเทพองค์สุดท้าย  โดยหนังสือเล่มแรกในชุด เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับสายฟ้าที่หายไป วางจำหน่ายในฉบับภาษาอังกฤษที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2548 และฉบับภาษาไทยในปี พ.ศ. 2553 โดยสำนักพิมพ์ Enter Books 

        เหตุผลที่ชอบ หนังสือ เล่มนี้นะคะก็เพราะว่า เนื้อหาน่าอ่านน่าติดตามค่ะ ใช้ภาษาในการเขียนได้เข้าใจง่าย การเขียนเน้นการพรรณนาทำให้เห็นภาพ อ่านแล้วเกิดจินตนาการตาม


        โครงเรื่องหลักของนวนิยายชุดนี้นะคะเกี่ยวข้องกับตำนานเทพปกรณัมของกรีกในวัฒนธรรมสมัยนิยมของยุคปัจจุบัน โดยวางฉากหลักของเรื่องที่นิวยอร์กซิตี ประเทศสหรัฐอเมริกาในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 21 โดยเทพเจ้าโอลิมปัสทั้งหลายต่างได้ย้ายเขาโอลิมปัสมาตั้ง ณ ใจกลางนครนิวยอร์กบนชั้น 600 ของตึกเอ็มไพร์สเตต เพอร์ซีย์ แจ็กสันอาศัยอยู่กับมารดาและพ่อเลี้ยงในแฟลตแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก และได้ค้นพบว่าตนเองมีเชื้อสายของเทพเจ้ากรีกอยู่ครึ่งหนึ่ง โดยมีบิดาเป็นโพไซดอน เทพแห่งมหาสมุทร เพอร์ซีย์ได้พบเพื่อนที่เป็นเลือดผสมระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้ามากมาย เขาร่วมผจญภัยกับแอนนาเบ็ธ เชส บุตรีแห่งอธีนา เทพีแห่งปัญญาและโกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด ซาไทร์ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา
        เนื้อเรื่องนะคะเริ่มขึ้นโดย สายฟ้าของซุสถูกขโมยไป แลเพอร์ซีย์ แจ็กสันถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยเขาและเพื่อนได้ผจญภัยร่วมกันเป็นเวลายาวนาน แต่สุดท้ายเพอร์ซีย์ แจ็กสัน ก็สามารถนำสายฟ้าที่ถูกขโมยไปกลับไปคืนให้ซุสได้ในที่สุดค่ะ ต่อไปเราจะมาแนะนำตัวละครหลักให้ผู้อ่านได้รู้จักกันนะคะ
ตัวละครหลักได้แก่
1.เพอร์ซีย์ แจ็กสัน บุตรแห่งโพไซดอน เป็นตัวละครนำของเรื่อง มีอาวุธคือ ปากกาลูกลื่น ซึ่งเปลี่ยนเป็นดาบต้องสาปชื่อริพไทด์ได้
2.โกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด ซาไทร์ เพื่อนสนิทของเพอร์ซีย์  มีลักษณะเป็นครึ่งแพะครึ่งมนุษย์ ซึ่งมีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีขาและเขาเป็นแพะ โกรเวอร์ใส่ขาปลอม กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบเพื่อปกปิดขาที่เป็นแพะ แม้ว่าเขาจะมีอายุ 28 ปี แต่ในอายุมนุษย์ ซาไทร์มีอายุการเจริญเติบโตเป็นครึ่งนึงของอายุมนุษย์ โกรเวอร์จึงมีอายุเพียง 14 ปีในหนังสือเล่มแรก นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนสนิทของเพอร์ซีย์ แจ็กสัน
3.แอนนาเบ็ธ เชส บุตรีแห่งอธีนา เพื่อน (ต่อมาเป็นแฟนสาว) ของเพอร์ซีย์ มีความฉลาดและมีทักษะในด้านสถาปัตยกรรมและการวางแผนกลยุทธ์ มีอาวุธคือ มีด

4.ลุค แคสเอลลัน เป็นบุตรแห่งเฮอร์มีส เป็นผู้ขโมยสายฟ้าของซุสไป
5.ธาเลีย เกรซ บุตรีแห่งซุส ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือเล่มที่สอง เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับอาถรรพ์ทะเลปีศาจ ต่อมาได้ไปสังกัดกับอาทีมีส ใน เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับคำสาปแห่งไททัน ทำให้เธอกลายเป็นอมตะ
6.นิโค ดิ แองเจโล บุตรแห่งเฮเดส
7.ไทสัน ยักษ์ไซคลอปส์ บุตรแห่งเทพโพไซดอน และเป็นพี่น้องของเพอร์ซีย์
8.แคลรีส ลา รูย์ บุตรีแห่งอาเรส
9.ราเชล อลิซาเบ็ธ แดรย์ เด็กสาวมนุษย์เป็นผู้ช่วยเพอร์ซีย์ ต่อมาเป็น Oracle of Delphi
        เป็นยังไงกันบ้างคะ เมื่ออ่านภาพรวมที่เราเล่าให้ฟังไปข้างต้นแล้ว ผู้อ่านรู้สึกสนใจในนวนิยายชุดนี้กันรึยังคะ? นวนิยายเรื่องนี้นอกจากจะให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านแล้ว ยังสอดแทรกข้อคิดที่ดีๆด้วย เราได้สรุปมาเป็นข้อๆลองอ่านกันดูนะคะ 

1.ความกล้าหาญนำมาซึ่งความสำเร็จ
2.เพื่อนแท้จะอยู่กับเราตลอดเวลาทั้งยามทุกข์และสุข
3.อย่าตัดสินคนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก
4.ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
5.ความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เสมอ
6.เมื่อตกอยู่ในยามคับขัน “ สติ ” เท่านั้นที่จะช่วยให้รอด
7.เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรได้หลายๆอย่าง
8.ความกตัญญูกตเวทีเป็นหน้าที่ของลูกที่ดี
9.กล้าในสิ่งที่ควรกล้าและกลัวในสิ่งที่ควรกลัว
10.ควรใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหามากกว่าใช้อารมณ์

        " สุดท้ายนี้นะคะผู้เขียนอยากจะเชิญชวนให้ผู้อ่านลองค้นหาหนังสือเล่มโปรดของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้พบกับความสุข ความสนุก ข้อคิด และคติเตือนใจดีๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการดำรงชีวิตของเรากันค่ะ " ...