วันอาทิตย์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2555

The Rhythm of Refreshment. O:)


         สวัสดีค่ะผู้อ่านทุกท่าน วันนี้ผู้เขียนมีเรื่องราวที่น่าสนใจมาแบ่งปันกันอีกแล้วค่ะ เนื้อเรื่องนั้นยังคงอยู่ในเรื่องของ สื่อสิ่งพิมพ์ ค่ะ แต่วันนี้ผู้เขียนจะนำเสนอ สื่อสิ่งพิมพ์ ที่ได้รับรางวัลให้ผู้อ่านได้รู้จักกันค่ะ 





         สื่อสิ่งพิมพ์ ที่เรานำมาเสนอในวันนี้นะคะเป็น สื่อสิ่งพิมพ์ ประเภทโปสเตอร์นั่นเองค่ะ โปสเตอร์ที่ว่านี้ เป็นของ ททท. เป็นโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของ ททท. ได้รับรางวัลจากการประกวด PATA Gold Awards 2008 ของสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ( Pacific Asia Travel Association : PATA ) ซึ่งได้เชิญหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวที่เกี่ยวข้องจำนวน 24 หน่วยงาน รวมถึง ททท. ร่วมส่งผลงานการออกแบบเพื่อส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว เข้าร่วมประกวดถึง 6 รายการ จากสื่อประเภทโบรชัวร์ โปสเตอร์ และ ซีดีรอม ผลปรากฏว่าโปสเตอร์ของ ททท. ได้รับรางวัล Gold Award ประเภท Marketing Media Awards : Travel Poster Category Thailand : The Rhythm of Refreshment, “ Mae Taman Elephant Camp, Chiang Mai ” เป็นภาพกิจกรรมจากปางช้างแม่ตะมาน ในบรรยากาศล่องแพของกลุ่มนักท่องเที่ยว



http://www.logothailand.com/shop/l/logothailand/img-lib/spd_20080421141015_b.jpg


         ในปีนี้มีผู้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวด 258 ราย จากหน่วยงานและองค์กรด้านการท่องเที่ยวจำนวน 108  หน่วยงาน  แบ่งประเภทรางวัลเป็น 6 ประเภทหลัก  จำแนกเป็นรางวัล Gold Award จำนวน 25 รางวัล และรางวัล Grand Award จำนวน 4 รางวัล  โดยประกาศผลรางวัลไปเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2551 และจะมีพิธีมอบรางวัลในวันที่ 19 กันยายน 2551 ช่วงการจัดงาน PATA TRAVEL MART 2008 ระหว่างวันที่ 16-19 กันยายน 2551 ที่เมืองไฮเดอราบัด สาธารณรัฐอินเดีย  


http://www.itehk.com/ITEHK/images/supportingOrg/9_MGTO-2.jpg


         ทั้งนี้ รางวัลดังกล่าว ได้รับการสนับสนุนจาก สำนักงานการท่องเที่ยวของมาเก๊า ( Macau Government Tourist Office : MGTO ที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง มาเป็นเวลาถึง 13 ปี  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมผลงานดีเด่นในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สร้างขวัญและกำลังใจให้แก่องค์กรหรือหน่วยงานในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในภูมิภาคเอเชีย

         เมื่อผู้อ่านได้ทราบข้อมูลกันไปแล้ว ต่อไปเราจะมาทำการวิเคราะห์หลักการออกแบบของโปสเตอร์นี้กันค่ะ ผู้เขียนจะแบ่งหัวข้อการวิเคราะห์ออกเป็น 4  ด้านด้วยกันคือ ภาพ  สี ตัวอักษร และการจัดวางภาพ

         ในด้านภาพนะคะ จากหัวข้อการประกวดการออกแบบโปสเตอร์เพื่อส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว ททท.ใช้ภาพถ่ายในการสื่อความหมาย ซึ่งเป็นภาพกิจกรรมจากปางช้างแม่ตะมาน ในบรรยากาศล่องแพของกลุ่มนักท่องเที่ยว เมื่อเห็นภาพแล้วสัมผัสได้ถึงอารมณ์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่อยู่ในภาพเมื่อโดนช้างพ่นน้ำใส่ สัมผัสได้ถึงความเปียกของละอองน้ำที่พ่นออกมาจากปากช้าง ภาพสื่ออารมณ์ได้ชัดเจนให้ความรู้สึกเหมือนตัวเราเองอยู่ในภาพๆนั้น

         ในด้านสีนะคะภาพที่ใช้เป็นภาพถ่าย สีสันที่ปรากฎเป็นสีของธรรมชาติ ที่มองแล้วสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติ ความสดชื่นของน้ำ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวและความร่มรื่นของต้นไม้ใหญ่ สัมผัสถึงอากาศที่เย็นสบาย สัมผัสได้ถึงความสนุกสนานในการล่องแพ

         ในด้านตัวอักษรนะคะแบ่งเป็นเรื่องของ ขนาด สี และรูปแบบของตัวอักษรค่ะ โปสเตอร์นี้ใช้ตัวอักษรที่น้อยมากแต่คำที่ยกมาใช้นั้น สื่อความหมายของภาพได้เป็นอย่างดี อ่านแล้วเข้าใจง่าย ไม่ต้องตีความ มีการใช้ตัวอักษรที่มีขนาดแตกต่างกัน คือ ใหญ่ และเล็ก โดยตัวอักษรใหญ่นั้นคือหัวข้อหลัก ใช้ในคำที่เขียนว่า “ Thailand ” ซึ่งเป็นคำที่ผู้ออกแบบตั้งใจจะนำเสนอในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ในประเทศไทย ส่วนตัวอักษรเล็กใช้ในคำโปรย สีของตัวอักษรนะคะ คำว่า “ Thailand ” ใช้สีเขียวเข้ม มองแล้วสบายตาดี บ่งบอกถึงความเป็นธรรมชาติ ส่วนคำโปรยใช้สีขาว เพื่อให้ตัดกับภาพทำให้มองเห็นตัวอักษรได้ชัดเจน และรูปแบบของตัวอักษรนะคะ เลือกใช้ได้เหมาะสม เพราะ คำว่า “ Thailand ” มีการออกแบบตัวอักษรขึ้นมาโดยเฉพาะให้เข้ากับภาพที่นำเสนอ และจัดอยู่ในตำแหน่งกลางหน้ากระดาษ คำโปรยก็เช่นกันค่ะ แต่อยู่ต่อจากหัวข้อหลัก รูปแบบตัวอักษรเลือกใช้ได้มีความเหมาะสมเพราะเป็นรูปแบบตัวอักษรมาตรฐานค่ะ



https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjFnFIJvWd12RCKAm-IA3SY5FxLu14N5-E_Dmh2BOwtfuS2klEMgd4085S9TkmtZhDX0jzNSHXkCUAtAJ102M5NIsXKLCD-39CCwFSDlV2AVrSh3Tjcx3sC4GFkjUKXbiXb6fT7kpJUBqcU/s1600/%25E0%25B8%2588%25E0%25B8%25B8%25E0%25B8%2594%25E0%25B8%2595%25E0%25B8%25B1%25E0%25B8%25949.jpg


         ในด้านสุดท้าย คือ การจัดวางภาพมีความเหมาะสม เพราะใช้เทคนิคจุดตัด 9 ช่อง ในการถ่ายภาพนี้ เนื่องจากช้างเป็นสิ่งดำเนินเรื่องของโปสเตอร์นี้ นับได้ว่าช้างเป็นจุดเด่นของภาพ ถูกจัดอยู่ในตำแหน่งขวาล่างค่ะ


        สุดท้ายนี้นะคะผู้เขียนคิดว่าหลักการออกแบบเป็นสิ่งสำคัญต่อการทำโปสเตอร์ค่ะ ยิ่งเมื่อส่งโปสเตอร์เข้าประกวดด้วยแล้ว เราจะชนะคู่ต่อสู้ได้ ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบที่สวยงามมีความเหมาะสมที่สุดค่ะ :)





วันศุกร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2555

" Brochure "


        สวัสดีค่ะคุณผู้อ่านทุกท่าน กลับมาพบกับเราอีกครั้งนะคะ เมื่อได้อ่านบล็อกก่อนหน้าที่ผู้เขียนได้นำเสนอในเรื่องของสื่อสิ่งพิมพ์ที่ชื่นชอบไป ได้รับความรู้กันไปพอสมควรเลยใช่ไหมคะ
        วันนี้ผู้เขียนมีบทความดีๆมานำเสนอค่ะ เนื้อเรื่องนะคะยังคงเกี่ยวข้องกับสื่อสิ่งพิมพ์ค่ะ ถามว่าทำไมต้องเป็นสื่อสิ่งพิมพ์ ผู้อ่านทราบไหมคะว่า สื่อสิ่งพิมพ์นั้นมี " อิทธิพล " ต่อตัวเรามากเลยหละค่ะ ซึ่งบางครั้งสื่อสิ่งพิมพ์ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงในด้านเจตคติ ทัศนคติ โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ว่าได้ วันนี้ผู้เขียนได้ไปค้นหามาให้ผู้อ่านได้ทราบกันว่าอิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์นั้น มีความหมายว่าอย่างไร " อิทธิพล " ของสื่อสิ่งพิมพ์นะคะ หมายถึง ความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างผู้กระทำการ กับผู้ถูกกระทำการ ในลักษณะที่ผู้กระทำทำการลงไปโดยเจตนาหรือไม่เจตนาก็ตามผ่านสื่อสิ่งพิมพ์ อันมีผลให้ผู้ถูกกระทำการมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม หรือทัศนคติเป็นไปตามความมุ่งหมาย หรือสอดคล้องกับผู้กระทำการ เมื่อผู้อ่านได้ทราบความหมายกันไปแล้ว คิดเหมือนกันกับผู้เขียนไหมคะ ว่าส่วนมากเราจะได้รับอิทธิพลจากผู้กระทำการโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยหละค่ะ 
*** อิทธิพลของสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีผลต่อบุคคลและสังคมมีหลายวัตถุประสงค์ค่ะ เช่น
1. เพื่อให้ความรู้
2. ทำหน้าที่เป็นสื่อบันทึกภาพสังคม ค่านิยม วัฒนธรรม ความเชื่อถือ ตลอดจนชีวิตความเป็นอยู่ 
3. ช่วยในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าวสารทั้งในภาคธุรกิจเอกชนและภาครัฐบาล 
4. เป็นสื่อในการช่วยเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาคเพื่อให้มีการเปลี่ยนแปลงสังคมไปในวิถีทางที่ถูกต้องยุติธรรม

        อย่างไรก็ตาม " อิทธิพล " ของสื่อสิ่งพิมพ์จะเป็นอย่างไร ย่อมขึ้นอยู่กับสภาพสังคมในช่วงเวลานั้นๆ เพราะสังคมและสื่อสิ่งพิมพ์ เป็นสิ่งที่ต่างเกื้อกูลซึ่งกันและกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ค่ะ


        สื่อสิ่งพิมพ์ที่จะนำมาเสนอในวันนี้ คือ โบรชัวร์ Brochure ผู้อ่านทราบไหมคะว่า โบรชัวร์ นั้นมีหน้าที่ให้ความรู้ ช่วยในการประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข่าวสารค่ะ และผู้เขียนเชื่อว่า โบรชัวร์ มีอิทธิพลต่อผู้ที่พบเห็นแน่นอนค่ะ สังเกตจากเหตุการณ์ล่าสุดที่เพิ่งเกิดขึ้นไปเมื่อไม่นานมานี้ คือ วันช็อปหยุดโลกที่ห้างสรรพสินค้า บิ๊กซี ซุปเปอร์เซ็นเตอร์ได้จัดขึ้นค่ะ 

        ก่อนวันช็อปหยุดโลกจะมาถึง ผู้เขียนมีโอกาสเดินผ่านห้างบิ๊กซีค่ะ ซึ่งบริเวณหน้าห้าง มีการแจก โบรชัวร์ วันช็อปหยุดโลก ให้แก่ผู้ที่เดินผ่านไปผ่านมา และผู้เขียนเองก็ได้รับแจก โบรชัวร์ ด้วยเช่นกันค่ะ การโฆษณาในลักษณะนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ดีมากเลยทีเดียว เพราะเจาะลึกถึงกลุ่มลูกค้าทุกเพศทุกวัย และเชื่อได้เลยว่าผลการตอบรับจะมีสูงถึง 100% เลยหละค่ะ 

        เมื่อวันช็อปหยุดโลกมาถึง นับได้ว่าเป็นวันที่คึกคักมากเลย เพราะห้างบิ๊กซีเกือบทุกสาขา เปิดให้บริการตั้งแต่ 6.00 น. จนถึง 24.00 น. มีผู้คนจำนวนมากรีบไปห้างตั้งแต่เวลา 6.00 น. เพื่อห้างเปิดเขาจะได้เข้าไปเป็นคนแรกๆเลย เนื่องมาจากอิทธิพลของ สื่อสิ่งพิมพ์ประเภท โบรชัวร์ นั่นเองค่ะ เพราะเมื่อได้อ่าน โบรชัวร์ ที่ได้รับแจกมา เราก็จะได้พบกับสินค้ามากมายหลายประเภทที่จัดโปรโมชั่นลด แลก แจก แถม ลดราคาแบบที่ใครๆเห็นแล้วต้องสนใจอยากได้ และเหตุผลง่ายๆเลยที่ผู้คนแห่กันมารอห้างเปิดนั้น เพราะสินค้าบางชนิดมีจำนวนจำกัดค่ะ ใครมาก่อนก็ได้ก่อน ใครมาทีหลังก็อดไป... 

        ในวันช็อปหยุดโลกผู้เขียนได้ฟังคนใกล้ตัวเล่าประสบการณ์ตรงที่เขาเจอกับตัวเอง คือ แม่ของเขารีบไปห้างตั้งแต่เช้าเพื่อไปซื้อของที่ตนเองสนใจจากการอ่าน โบรชัวร์ เมื่อไปถึงก็ได้พบว่ามีผู้คนมากมายยืนออกันอยู่ที่ประตูห้างรอเวลาห้างเปิด ส่วนอีกรายคือ เพื่อนของเขาไปห้างเพื่อช่วยแม่หิ้วของ แต่พอไปถึงที่ห้างเขาก็ได้รับแจก โบรชัวร์ เมื่อได้เห็นราคาเต๊นท์ลดราคาครึ่งต่อครึ่ง ทำให้เขาเกิดความอยากได้ขึ้นมาจึงตัดสินใจซื้อเต๊นท์ไปจำนวน 2 หลัง  ส่วนประสบการณ์ตรงของคนใกล้ตัวของผู้เขียน คือ เขาไปห้างเวลา 13.00 น. เมื่อไปถึงพบว่าตระกร้าใส่สินค้ามีไม่พอกับจำนวนของลูกค้า ส่งผลให้เกิดความวุ่นวายต่อพนักงานที่ห้างนั้นเป็นอย่างมาก ในระหว่างที่เขากำลังจ่ายเงินที่แคชเชียร์ มีคุณลุงคนหนึ่งมาถามเขาว่า " หนูซื้อหมอนข้างใบนี้ที่ไหน " เขาก็ตอบไปว่า " เดินเลยช่องขายขนมปังไปครับ " ไม่นานลุงคนนั้นได้เดินมาบอกเขาว่า " ลุงไปถึงของหมดแล้วหนู ไม่คิดว่ามันจะหมดไว้เท่านี้เลย " และอีกสถานการณ์คือ เขาได้กลับไปห้างอีกครั้งในเวลา 20.30 น. เพราะนึกขึ้นได้ว่ายังซื้อของไม่ครบ และเขาก็ได้พบว่าสินค้าแทบจะไม่มีอะไรเหลือเลย เหตุการณ์เช่นนี้มาจากอิทธิพลของ โบรชัวร์ ที่ดึงดูดลูกค้าทุกเพศทุกวัยให้หันมาสนใจสินค้าที่จัดรายการ ดังนั้นผู้เขียนจึงสรุปได้ว่า โบรชัวร์ เป็นสื่อที่มีบทบาทและมีอิทธิพลต่อคนในสังคมเป็นอย่างมากค่ะ เพราะทั้งผู้ขายและผู้ซื้อต่างได้รับผลประโยชน์ตามที่ตนเองต้องการจาก โบรชัวร์  ค่ะ :)
















       

วันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

Happy meal O:)


        สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ สบายดีกันรึเปล่า วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่อง สื่อสิ่งพิมพ์  ค่ะ ก่อนอื่นเราจะมาแนะนำความหมายของ สื่อสิ่งพิมพ์ ให้ผู้อ่านได้ทราบกันก่อนค่ะ สื่อสิ่งพิมพ์ คือ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกประเภทที่ผ่านกระบวนการพิมพ์ การสร้างภาพพิมพ์ ปรากฏเนื้อหาที่สามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารได้ ไม่ว่าวัสดุที่ใช้พิมพ์จะเป็นอะไรก็ตามค่ะ หรือจะสรุปสั้นๆว่า สื่อที่เป็นสื่อกลาง มีวัตถุประสงค์เพื่อการสื่อสาร ใช้การพิมพ์เป็นหลักและมีการทำสำเนาค่ะ

        ผู้อ่านลองสังเกตไปรอบๆตัวเราสิคะ จะพบว่ามี " สื่อสิ่งพิมพ์ " ปรากฏอยู่มากมายและมีส่วนเกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของเราทั้งสิ้นค่ะ เช่น ฉลากยา  โบชัวร์ แผ่นพับ หนังสือพิมพ์ นิตยสาร เป็นต้น และยังรวมถึงข้อความที่ตีพิมพ์อยู่บนบรรจุภัณฑ์ต่างๆ เช่น บนขวดครีมอาบน้ำ  ขวดแชมพู ครีมนวด กล่องยาสีฟัน ซองผงซักฟอก ถุงพลาสติกของห้างต่างๆ ซองและขวดผลิตภัณฑ์ประกอบอาหาร ซองขนมขบเคี้ยวต่างๆ  เป็นต้นค่ะ 



       


        “ สื่อสิ่งพิมพ์ แต่ละประเภทจะถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ เพื่อให้ตรงกับวัตถุประสงค์ และกลุ่มเป้าหมายของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เช่น ซองขนมขบเคี้ยวต่างๆ จะแสดงถึงสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในซอง เมื่อเราดูแค่ซองเราก็จะเข้าใจได้ในทันทีว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในซองนั้นคืออะไร ในเรื่องของ สี แบบตัวอักษร สีของตัวอักษร รูปภาพ ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญในการออกแบบเลยค่ะ เพราะถ้าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีองค์ประกอบที่ครบถ้วน จะช่วยให้เป็นที่สนใจ ดึงดูดลูกค้า และทำให้ผลิตภัณฑ์นั้นๆ เป็นที่จดจำได้ของผู้ที่พบเห็นค่ะ

        “ สื่อสิ่งพิมพ์ ที่ผู้เขียนชื่นชอบนะคะ คือ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ ชุด Happy meal ของร้าน McDonald’s ค่ะ ผู้อ่านจำได้เหมือนกันไหมคะว่า ชุด Happy meal แต่ก่อนนั้น ไม่ได้เป็นในลักษณะนี้ แต่ก็เพราะยุคสมัยไงหละคะ ที่เป็นตัวกำหนด ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้สิ่งนั้นๆ เกิดความสวยงาม และทันสมัยขึ้นค่ะ 









        เหตุผลที่ผู้เขียนชอบ Packaging หรือบรรจุภัณฑ์ของ ชุด Happy meal เหตุผลส่วนตัวนะคะ เพราะชอบกิน McDonald’s มาตั้งแต่เด็กๆละค่ะ ชอบสะสมของเล่นที่มากับชุด  Happy meal ค่ะ แต่พอโตขึ้น ที่บ้านไม่มีที่เก็บของเล่นเหล่านี้แล้ว แม่จึงนำของเล่นไปบริจาคคนอื่น จำได้ว่าตอนนั้นร้องไห้เลยค่ะ แต่ก็ได้แอบเลือกเก็บเฉพาะตัวที่ชอบมากๆไว้ได้ค่ะ
         J เหตุผลที่ชอบ คือ 1.ในด้านการออกแบบ มีการออกแบบบรรจุภัณฑ์เป็นทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งทำมาจากกระดาษแข็ง ไม่เป็นอันตรายและไม่ทำให้โลกร้อนค่ะ 2.ในเรื่องของสี เลือกใช้สีที่เป็นแม่สี สีแดงเป็นสีที่เป็นสัญลักษณ์ของร้าน McDonald’s ผู้เขียนได้เคยอ่านเจอนะคะว่า กลุ่มสีโทนร้อน เป็นกลุ่มสีที่ทำให้เกิดความรู้สึกมีพลัง เร่าร้อน กระตือรือร้นและกระฉับกระเฉง ในทางจิตวิทยาความแรงของสีโทนร้อน จะช่วยกระตุ้นให้เกิดความรู้สึกอยากอาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกหิว และกระตุ้นให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ สีเขียวเป็นสีที่อยู่ตรงข้ามกับสีแดง ทำให้เห็นถึงการใช้สีตรงข้าม สีเหลืองถูกออกแบบให้เป็นหูหิ้ว 3.ในเรื่องของตัวอักษร รูปแบบตัวอักษรที่เลือกใช้ใน สื่อสิ่งพิมพ์นี้ มีขนาดที่พอดีกับขนาดของบรรจุภัณฑ์  การออกแบบตัวอักษร อ่านง่ายดี 4.ในเรื่องของสีตัวอักษร เลือกใช้สีได้มีความลงตัวและมีความเหมาะสม ใช้สีเพียงแค่ 3 สี คือ ขาว เหลือง เขียว แต่สามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่เป็นเด็กๆได้เป็นอย่างดี เนื้อหาที่อยู่บนบรรจุภัณฑ์ด้านข้างจะเป็นเกม ฝึกทักษะ คือ เกมเขาวงกต อีกด้านจะเป็นเกมหาคำศัพท์ที่เกี่ยวกับ ชุด Happy meal และด้านสุดท้ายจะเป็นการให้ความรู้ว่าในชุด Happy meal อาหารที่รับประทานไปนั้นมีคุณประโยชน์อะไรมั่งค่ะ เมื่อผู้อ่านได้ทราบข้อมูลที่อธิบายไปแล้ว เมื่อซื้อชุด Happy meal มาให้ลูกหลานอย่าลืมที่จะลองอ่านที่บรรจุภัณฑ์ เพื่อเสริมสร้างทักษะให้กับลูกหลานกันนะคะ 






วันอังคารที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

The son of Poseidon...

        สวัสดีผู้อ่านทุกคนค่ะ เป็นยังไงกันบ้างคะ สบายดีกันรึเปล่า วันนี้เราจะมาพูดคุยกันในเรื่องของหนังสือเล่มโปรดของผู้เขียนกันค่ะ คำว่า " หนังสือ " หลายคนฟังแล้วก็ไม่อยากอ่าน เคยเป็นกันใช่ไหมคะ แต่ " หนังสือ " นั้นมีมากมายหลายประเภทค่ะ ขึ้นอยู่กับว่าผู้อ่านจะชอบอ่าน " หนังสือ " ประเภทไหน แต่ก็ใช่ว่า " หนังสือ " ประเภทนั้นๆจะเขียนได้ดีทุกเล่มเสมอไปนะคะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วยค่ะ การอ่าน " หนังสือ  " เปรียบเสมือนการเปิดโลกทัศน์ให้กับผู้อ่าน ส่วนตัวของผู้เขียนนั้นก็ไม่ใช่เป็นนักอ่านหรอกค่ะ จะอ่านเฉพาะ " หนังสือ " ที่ได้ลองอ่านแล้วรู้สึกชอบ สนใจ อยากติดตามต่อ นี่แหละค่ะเป็นสิ่งที่ทำให้เราอ่าน " หนังสือ " เล่มนั้นได้อย่างมีความสุข และ " หนังสือ " เล่มโปรดของผู้เขียนนะคะ เป็น " หนังสือ " ประเภทนวนิยายแฟนตาซีค่ะซึ่ง ประพันธ์โดย ริก ไรออร์ดัน ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับเด็กชายชื่อว่า เพอร์ซีย์ แจ็กสัน หนังสือในชุดเพอร์ซีย์ แจ็กสัน ประกอบไปด้วยหนังสือจำนวน 5 เล่ม คือ  เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับสายฟ้าที่หายไป, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับอาถรรพ์ทะเลปีศาจ,     เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับคำสาปแห่งไททัน, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับปริศนาเขาวงกต, เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับเทพองค์สุดท้าย  โดยหนังสือเล่มแรกในชุด เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับสายฟ้าที่หายไป วางจำหน่ายในฉบับภาษาอังกฤษที่สหรัฐอเมริกาเมื่อ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2548 และฉบับภาษาไทยในปี พ.ศ. 2553 โดยสำนักพิมพ์ Enter Books 

        เหตุผลที่ชอบ หนังสือ เล่มนี้นะคะก็เพราะว่า เนื้อหาน่าอ่านน่าติดตามค่ะ ใช้ภาษาในการเขียนได้เข้าใจง่าย การเขียนเน้นการพรรณนาทำให้เห็นภาพ อ่านแล้วเกิดจินตนาการตาม


        โครงเรื่องหลักของนวนิยายชุดนี้นะคะเกี่ยวข้องกับตำนานเทพปกรณัมของกรีกในวัฒนธรรมสมัยนิยมของยุคปัจจุบัน โดยวางฉากหลักของเรื่องที่นิวยอร์กซิตี ประเทศสหรัฐอเมริกาในยุคคริสต์ศตวรรษที่ 21 โดยเทพเจ้าโอลิมปัสทั้งหลายต่างได้ย้ายเขาโอลิมปัสมาตั้ง ณ ใจกลางนครนิวยอร์กบนชั้น 600 ของตึกเอ็มไพร์สเตต เพอร์ซีย์ แจ็กสันอาศัยอยู่กับมารดาและพ่อเลี้ยงในแฟลตแห่งหนึ่งในนครนิวยอร์ก และได้ค้นพบว่าตนเองมีเชื้อสายของเทพเจ้ากรีกอยู่ครึ่งหนึ่ง โดยมีบิดาเป็นโพไซดอน เทพแห่งมหาสมุทร เพอร์ซีย์ได้พบเพื่อนที่เป็นเลือดผสมระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้ามากมาย เขาร่วมผจญภัยกับแอนนาเบ็ธ เชส บุตรีแห่งอธีนา เทพีแห่งปัญญาและโกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด ซาไทร์ที่เป็นเพื่อนสนิทของเขา
        เนื้อเรื่องนะคะเริ่มขึ้นโดย สายฟ้าของซุสถูกขโมยไป แลเพอร์ซีย์ แจ็กสันถูกกล่าวหาว่าเป็นคนขโมยเขาและเพื่อนได้ผจญภัยร่วมกันเป็นเวลายาวนาน แต่สุดท้ายเพอร์ซีย์ แจ็กสัน ก็สามารถนำสายฟ้าที่ถูกขโมยไปกลับไปคืนให้ซุสได้ในที่สุดค่ะ ต่อไปเราจะมาแนะนำตัวละครหลักให้ผู้อ่านได้รู้จักกันนะคะ
ตัวละครหลักได้แก่
1.เพอร์ซีย์ แจ็กสัน บุตรแห่งโพไซดอน เป็นตัวละครนำของเรื่อง มีอาวุธคือ ปากกาลูกลื่น ซึ่งเปลี่ยนเป็นดาบต้องสาปชื่อริพไทด์ได้
2.โกรเวอร์ อันเดอร์วู้ด ซาไทร์ เพื่อนสนิทของเพอร์ซีย์  มีลักษณะเป็นครึ่งแพะครึ่งมนุษย์ ซึ่งมีร่างกายเป็นมนุษย์ แต่มีขาและเขาเป็นแพะ โกรเวอร์ใส่ขาปลอม กางเกงยีนส์และรองเท้าผ้าใบเพื่อปกปิดขาที่เป็นแพะ แม้ว่าเขาจะมีอายุ 28 ปี แต่ในอายุมนุษย์ ซาไทร์มีอายุการเจริญเติบโตเป็นครึ่งนึงของอายุมนุษย์ โกรเวอร์จึงมีอายุเพียง 14 ปีในหนังสือเล่มแรก นอกจากนี้เขายังเป็นเพื่อนสนิทของเพอร์ซีย์ แจ็กสัน
3.แอนนาเบ็ธ เชส บุตรีแห่งอธีนา เพื่อน (ต่อมาเป็นแฟนสาว) ของเพอร์ซีย์ มีความฉลาดและมีทักษะในด้านสถาปัตยกรรมและการวางแผนกลยุทธ์ มีอาวุธคือ มีด

4.ลุค แคสเอลลัน เป็นบุตรแห่งเฮอร์มีส เป็นผู้ขโมยสายฟ้าของซุสไป
5.ธาเลีย เกรซ บุตรีแห่งซุส ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือเล่มที่สอง เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับอาถรรพ์ทะเลปีศาจ ต่อมาได้ไปสังกัดกับอาทีมีส ใน เพอร์ซีย์ แจ็กสัน กับคำสาปแห่งไททัน ทำให้เธอกลายเป็นอมตะ
6.นิโค ดิ แองเจโล บุตรแห่งเฮเดส
7.ไทสัน ยักษ์ไซคลอปส์ บุตรแห่งเทพโพไซดอน และเป็นพี่น้องของเพอร์ซีย์
8.แคลรีส ลา รูย์ บุตรีแห่งอาเรส
9.ราเชล อลิซาเบ็ธ แดรย์ เด็กสาวมนุษย์เป็นผู้ช่วยเพอร์ซีย์ ต่อมาเป็น Oracle of Delphi
        เป็นยังไงกันบ้างคะ เมื่ออ่านภาพรวมที่เราเล่าให้ฟังไปข้างต้นแล้ว ผู้อ่านรู้สึกสนใจในนวนิยายชุดนี้กันรึยังคะ? นวนิยายเรื่องนี้นอกจากจะให้ความบันเทิงแก่ผู้อ่านแล้ว ยังสอดแทรกข้อคิดที่ดีๆด้วย เราได้สรุปมาเป็นข้อๆลองอ่านกันดูนะคะ 

1.ความกล้าหาญนำมาซึ่งความสำเร็จ
2.เพื่อนแท้จะอยู่กับเราตลอดเวลาทั้งยามทุกข์และสุข
3.อย่าตัดสินคนเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอก
4.ความพยายามอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น
5.ความรักของพ่อแม่ยิ่งใหญ่เสมอ
6.เมื่อตกอยู่ในยามคับขัน “ สติ ” เท่านั้นที่จะช่วยให้รอด
7.เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อะไรได้หลายๆอย่าง
8.ความกตัญญูกตเวทีเป็นหน้าที่ของลูกที่ดี
9.กล้าในสิ่งที่ควรกล้าและกลัวในสิ่งที่ควรกลัว
10.ควรใช้เหตุผลในการตัดสินปัญหามากกว่าใช้อารมณ์

        " สุดท้ายนี้นะคะผู้เขียนอยากจะเชิญชวนให้ผู้อ่านลองค้นหาหนังสือเล่มโปรดของตัวเองให้เจอ เพื่อที่จะได้พบกับความสุข ความสนุก ข้อคิด และคติเตือนใจดีๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับการดำรงชีวิตของเรากันค่ะ " ...