วันศุกร์ที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

Valentine's day

อีกแค่ 2 วันก็จะถึงวัน Valentine แล้ว และดอกกุหลาบก็เป็นสิ่งที่ pop เป็นอย่างยิ่งในวันนั้น และเราได้นำเรื่องสีของดอกกุหลาบมาฝากกัน เพราะกุหลาบแต่ละสีนั้นมันมีความหมายในตัวของมันเอง ซึ่งสีของมันสามารถสื่อถึงความหมายอะไรบางอย่างได้นะ มาดูกันเลยดีกว่า

กุหลาบแดงและขาวรวมกัน สื่อความหมายให้รู้ว่า "สองเราเป็นหนึ่งเดียวกัน"

กุหลาบสีชมพู หมายถึง "ความงดงามและความอ่อนโยน"

กุหลาบสีเหลือง บอกเป็นนัยว่า "ขอเป็นชู้ทางใจ" หรือ หมายถึงความสุข สนุกสนาน ร่าเริง

กุหลาบสีส้ม เพื่อบอกความในใจถึงความรักและสิ่งที่ผ่านมา

กุหลาบแดงเข้ม(สีเหมือนไวน์แดง) แทนคำว่า "เธอช่างสวยเหลือเกิน"

กุหลาบสีขาว บอกว่า "ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน" 


กุหลาบตูม ที่มีทั้งใบและหนาม บอกให้รู้ว่า "แม้ฉันจะวิตกอยู่บ้าง แต่รู้ว่าเธอคงไม่ปฎิเสธ" 


กุหลาบตูมที่ริดใบทิ้งหมด แสดงให้เห็นว่าผู้ให้รู้สึกทุกสิ่งทุกอย่าน่ากลัวไปหมด

กุหลาบตูมที่ริดหนามทิ้งหมด แสดงให้เห็นถึงความหวังที่มีอย่างเปี่ยมล้น

กุหลาบตูมสีแดง แสดงให้เห็นถึงความรักที่ไร้เดียงสา "รักของฉันเพิ่งแรกแย้ม และอ่อนต่อโลก"

กุหลาบตูมสีขาว แสดงถึงความมีเสน่ห์น่าหลงใหล ไร้เดียงสาในเรื่องความรัก

กุหลาบบานหนึ่งดอก และกุหลาบตูม 2 ดอก อยากบอกว่า "นี่คือความรักที่ฉันแอบซ่อนไว้"

กุหลาบบานสีแดง บอกให้รู้ว่า "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"

กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว เขาอยากจะบอกให้คุณรู้ว่า "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว" 


กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว แทนความหมาย "เสน่ห์ของเธอมันจืดจางลงแล้ว"

กุหลาบไร้หนาม ให้รู้ว่า "เธอช่างมีเสน่ห์น่าหลงไหลแม้ยามแรกพบ"

กุหลาบดอกเดียวแทนความหมาย "รักฉันแม้เรียบง่าย แต่ก็มั่นคงกับเธอผู้เดียว"


แถมความหมายของจำนวนดอกกุหลาบอีกนิดนึงนะคะ *-*

1 = เธอเป็นหนึ่งเดียวของฉันเท่านั้น
2 = มีเพียงเธอ กับ ฉัน
3 = ฉันรักเธอ
5 = การให้ที่ไม่มีอะไรต้องเสียใจ
7 = เราจะพบกับเรื่องมงคล
8 = ชดเชยวันเวลาที่ขาดหายไป
9 = อยู่ด้วยกันให้ยืนยาวและมั่นคง
11 = รักเธอที่สุด
12 = ฉันรักเธอ เธอก็รักฉัน เรารักกัน
24 = ฉันคิดถึงเธอตลอดเวลา
33 = รักกัน 3 ชาติ
50 = ความรักที่ยืนยาวชั่วนิรันดร
66 = ความรักของเรา เหมือนสายน้ำไม่เคยหยุดนิ่ง
100 = เราจะถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชรด้วยกัน
101 = รักเรายืนยาวชั่วนิรันดร
108 = ความรักของฉันจะไม่มีที่สิ้นสุด
365 = ฉันคิดถึงเธอทุกๆวัน
999 = รักเธอชั่วฟ้าดินสลาย
1,009 = ฉันรักเธอเพราะเธอเป็นเธอ
9,999 = แทนความจริงใจทั้งหมดที่ฉันมีให้เธอจากนี้และตลอดไป
10,000 = รักเธอเป็นหมื่นๆปี




วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

นึกขึ้นมาได้พอดี•°o.O O.o°•

เรื่องที่จะมาพูดคุยกันในวันนี้เป็นความบังเอิญที่เห็นแล้วนึกขี้นมาได้พอดีเกี่ยวกับสีของรองเท้า เราเป็นคนนึงที่ชอบใส่รองเท้าแบบต่างๆ อยากจะซื้อมันในทุกๆคู่ที่เห็นแล้วชอบ แต่เงินเป็นปัจจัยที่สำคัญเลยหล่ะ เรื่องสีเข้ามาเกี่ยวข้องยังไงกับรองเท้านะ รองเท้าถ้าพูดตามความหมายก็คือใส่เพื่อกันไม่ให้เท้าเปื้อน 
แต่เราชอบที่จะเลือกซื้อสีของรองเท้าให้เข้ากับสีผิวของเท้า เข้ากับการแต่งกาย กระเป๋า เป็นต้น เคยมั๊ยที่รองเท้าคู่นั้นดูสวย น่าใส่ แต่พอเรามาลองใส่ รองเท้าคู่นั้นกลับหมดความสวยไปเลย และเหตุนี้เองก็ทำให้เราใช้เวลานานในการเลือกซื้อรองเท้า จนบางครั้งแอบกลัวว่าคนขายจะไล่ออกจากร้าน เราคิดว่าสีของรองเท้าจะช่วยให้เท้าของเราสวยขึ้นมาได้ (นี่เป็นความคิดส่วนตัวนะ) คนอื่นอาจไม่เห็นด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเรื่องความชอบบวกกับรสนิยมของแต่ละคนก็แตกต่างกันมันว่ากันไม่ได้ เข้าเรื่องสีของรองเท้าเลยดีกว่า เราคิดว่าถ้าเป็นคนผิวขาวจะได้เปรียบในเรื่องของการเลือกสีรองเท้าเพราะว่าจะใส่สีไหนก็ดูดีไปหมด ยิ่งถ้าใส่รองเท้าสีสันสดใสแล้วละก็เท้าของคุณก็จะเด่นขึ้นมาเพราะมันขับกับสีของรองเท้า ส่วนคนที่ผิวคล้ำก็มีวิธีเลือกสีของรองเท้าให้เท้าดูสวยได้ เช่น เลือกสีที่เข้มๆ เช่น ดำ น้ำตาล เทา หลีกเลี่ยงรองเท้าที่สีสันสดใส เช่น แดง เขียว เป็นต้น หรือสีตัดกับผิวมากเกินไปเพราะมันจะทำให้เห็นความแตกต่างที่ชัดเจนเลยหละ

วันอังคารที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2554

Colour VS Nails

ในบล็อกนี้เราจะมาพูดคุยกันเรื่องการเลือกสีทาเล็บให้เข้ากับสีผิว เชื่อได้ว่าไม่มีสาวๆคนไหนที่ไม่ชอบทาเล็บ หรืออาจจะมีแต่คิดว่าเป็นส่วนน้อยนะ เคยมั๊ยสียาทาเล็บก็ดูสวยแต่ทำไมพอมาอยู่บนเล็บเรามันกลับไม่สวย นั่นไงสีผิวเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ซะแล้ว วันนี้เรามีเทคนิคการเลือกยาทาเล็บให้เข้ากับสีผิวมาฝากกันลองมาดูๆกันนะคะว่าทริคนี้จะใช้ได้ผลรึเปล่า

สาวผิวขาวอมเหลือง :
เหมาะกับยาทาเล็บสีชมพูอมส้ม สีน้ำตาลทองสว่าง หรือสีสดๆ จะทำให้มือดูอ่อนเยาว์ ไม่ซีดเซียวและสดใสขึ้น
สาวผิวขาวอมชมพู :
เหมาะกับยาทาเล็บสีชมพูอมน้ำตาล สีชมพูอมม่วง หรือสีโทนเย็น จะทำให้ดูอ่อนหวานขึ้น
สาวผิวคล้ำอมเหลือง :
เหมาะกับยาทาเล็บสีน้ำตาลทองเข้ม สีแดงสด หรือสีทอง จะช่วยทำให้ดูอบอุ่น ลุ่มลึก น่าค้นหา
สาวผิวคล้ำหรือดำแดง :
เหมาะกับยาทาเล็บสีแดงเข้ม สีชมพู จะดูเป็นคนมีพลัง ฉลาดเฉลียว ทันคน ปรับตัวเก่ง


T I P S
สีอ่อนเข้าไว้
ถ้าคุณยังไม่คล่องพอที่จะทาสีเล็บด้วยตัวเอง หรืออยู่ในช่วงเวลาเร่งด่วน แต่อยากจะทาสีเล็บเพื่อออกงาน ให้เลือกสีเล็บที่มีเฉดสีอ่อน เพราะหากทาสีเล็บเลยไปหรือทาไม่เต็มหรือไม่เนียนพอ จะได้เห็นไม่ชัด
เลือกสีตามเทรนด์
ลองมองหาเทรนด์สีเล็บที่นิยมกัน ด้วยการสังเกตเวลาเข้าร้านทำเล็บว่าสีไหนที่ถูกใช้งานไปเยอะมากที่สุด นั่นแหละคือสีที่ใช่
ยิ่งสั้นสียิ่งสวย
ถ้าต้องการทาเล็บสีสว่างสดใส ควรตัดเล็บให้สั้นกว่าปกติ สีเล็บที่สดใสก็จะช่วยดึงความสนใจได้เพียงพอแล้ว
บำรุงเล็บบ้าง
ถ้าเล็บของคุณบาง อ่อนแอ และฉีกขาดง่าย ทานวิตามินเสริมอย่างธาตุเหล็กบ้าง วันละเม็ด นอกจากนี้ควรทาท๊อปโค้ทที่ปราศจากสารฟอร์มัลดิไฮด์ และทำจากโปรตีน เพื่อช่วยบำรุงให้เล็บแข็งแรงเสริมเข้าไปด้วย
รูปทรงของเล็บก็สำคัญ
ไม่ จำเป็นจะต้องไว้ให้ยาวเสมอไปถึงจะสวย เพียงดูแลและตัดเล็บให้ได้รูปร่างที่สวยงามก็ใช้ได้แล้ว อย่างตอนนี้เทรนด์เล็บนิยมการตัดเล็บแนวสี่เหลี่ยมปลายมนเล็กน้อย ถ้าไม่อยากทาสีเล็บก็ทาท๊อปโค้ทบำรุงเล็บและช่วยให้เล็บเป็นเงางามสวยก็ได้


ทริคข้างต้นนั้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น แต่จากประสบการณ์ของเรา เราจะเลือกสีทาเล็บให้เข้ากับการแต่งกายนะ เช่น ถ้าใส่ชุดนิสิตเราจะเลือกสียาทาเล็บสีไหนก็ได้ตามใจเรา (นี่เป็นความคิดส่วนตัวนะ) แต่ถ้าบางโอกาสเราจะเลือกสียาทาเล็บให้เข้ากับสีของเสื้อผ้า เช่น ถ้าเราใส่ชุดสีดำก็ไม่มีปัญหา สีไหนๆก็เข้ากันได้ แต่ถ้าเป็นชุดสีๆ เช่น ตอนที่เราใส่เสื้อสีม่วงเข้มกับกางเกงยีนส์เราจะทาเล็บสีม่วงอ่อนแล้วทาเคลือบเงาทับ เราเคยเห็นคนใส่เสื้อสีส้มแล้วทาเล็บสีน้ำเงินเราคิดว่ามันไม่เข้ากัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่ที่รสนิยมและความชอบส่วนบุคคลบางครั้งก็ไม่สามรถบังคับกันได้ค่ะ
••*´¨¯¨`*••lll••*´¨¯¨`*••

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

Begin✿

นี่เป็นการเขียนบล็อกครั้งแรกของเราเลยก็ว่าได้ เรื่องที่เลือกมาเขียนนั้นเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับสี 
ความสดใสร่าเริง เพราะสีเป็นสิ่งที่เติมเต็มให้ทุกอย่างดูสวยงาม สดใส มีชีวิตชีวา เช่น เปรียบเทียบระหว่างคนที่แต่งหน้าและคนที่ไม่แต่งหน้า คนที่แต่งหน้าจะดูมีสีสันมากกว่าคนที่ไม่ได้แต่ง สังเกตได้ว่าทุกๆที่ไม่มีที่ใดไม่มีสี เคยมั๊ยที่บางครั้งเราพูดว่าเราชอบสีนี้นะ สมมติว่าเป็นสีชมพู แต่ในบางครั้งบางโอกาสเราอาจจะพูดว่าไม่ชอบสีชมพูแล้ว เพราะมีสีอื่นที่สวยกว่าซึ่งมันต้องขึ้นอยู่กับสิ่งๆนั้นด้วย เมื่อเอาสีมาเปรียบเทียบกัน และนี่เป็นสิ่งที่บอกได้ว่าสีเข้ามามีบทบาทกับตัวเราเองจนบางครั้งและบางคนไม่ได้ใส่ใจกับเรื่องสีเท่าไหร่ แต่ในส่วนตัวเรา เราคิดว่าเรื่องสีเป็นเรื่องที่สำคัญเรื่องหนึ่งเลย สีมีส่วนช่วยให้เราดูดีขึ้น ดูโดดเด่นขึ้นได้เพียงแค่เรารู้จักที่จะเลือกใช้สีให้เป็น บางครั้งก็ขึ้นอยู่กับจังหวะและโอกาสด้วย ปัจจัยที่จะเลือกใช้สีมีมากมาย เช่น รูปร่างหน้าตา สีผิว ส่วนสูงและน้ำหนัก อายุ บุคลิกภาพ เพศ 
เป็นต้น ในเรื่องของสีเราคิดว่ามันสามารถแสดงออกมาได้หลายมุมหลายแง่คิด เช่น สีแสดงออกถึงอารมณ์และความรู้สึกของบุคคลที่เลือกใช้มัน แสดงถึงเหตุการณ์ต่างๆ เช่น งานแต่งงาน งานศพ 
งานเลี้ยงสังสรรค์ ฯลฯ แสดงออกถึงความคิด บางครั้งเราใช้สีเป็นสัญลักษณ์ เช่น สีชมพู หมายถึง ความรัก สีดำหมายถึง ความโศกเศร้า บางครั้งสีก็เข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องของโชคราง เราจะสังเกตได้จากเทศกาลตรุษจีนที่ชาวจีนเลือกใช้สีแดงสดใสในการแต่งกาย ไม่นิยมใช้สีอื่นเลย เป็นต้น ในส่วนของการเขียนบล็อกบล็อกแรกของเราคงจบเพียงเท่านี้ก่อน ติดตามเรื่องราวของสีได้ในบล็อกต่อไปนะคะ *-*